ถ้าหากว่าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่เคยออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ทำ IF แต่ยังรู้สึกว่าทำมานานแล้วสัดส่วนยังไม่กระชับ ยังมีไขมันสะสม หรือเซลลูไลท์อยู่ หรือคนที่กำลังอยากลดไขมันไขมันสะสมแบบเร่งด่วน และไม่ต้องการดูดไขมัน คุณห้ามพลาดบทความนี้ เพราะ UD Clinic จะพาคุณไปรู้จักกับหัตถการทางการแพทย์ ที่จะนำเอาวิตามิน สารสกัดจากธรรมชาติ เข้ามาช่วยในการสลายไขมันสะสมอย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลได้อย่างชัดเจน มีความปลอดภัย นั่นก็คือ การทำ Mesofat นวัตกรรมที่เหมาะสำหรับกระชับสัดส่วน และปรับรูปหน้าที่ดีที่สุดในเวลานี้

Mesofat คืออะไร ?

เมโสแฟตที่ UD Clinic

ผลลัพธ์หลังจากการฉีด

เมโสแฟตสูตรที่อันตราย

Mesofat คืออะไร ?

การทำ Mesofat คือการนำตัวยาฉีดเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อทำการสลายไขมันส่วนเกิน และมีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้คือมีสัดส่วนที่กระชับ ไม่หย่อนคล้อย ซึ่งไขมันที่ถูกสลายโดยตัวยาMesofat นั้นเซลล์ไขมันจะตาย กลายเป็นของเสีย และถูกขับออกจากร่างกายทางระบบน้ำเหลือง ในตลาดเสริมความงามนั้นมีตัวยาเมโสแฟตให้เลือกด้วยกันหลากหลายแบรนด์ ซึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยม และถูกนำมาใช้ที่ UD Clinic จะมีด้วยกันทั้งหมดดังนี้

เมโสแฟตที่ UD Clinic

• Diamaond Fat :  เมโสแฟตสลายไขันสูตรพีเมี่ยม จากบริษัท DermAesthetic เมโสแฟตสัญชาติเกาหลี ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ (Natural Plant Extracts) ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายกว่า 17 ชนิด, คาร์นิทีน (Carnitine), อาร์จิรีลีน (Argiereline),
  สารสกัดจากเปลือกของต้นบริชท์สีขาว ตัวยาที่จะช่วยสลายไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ต้านอาการอักเสบ ลดการบวม ตัวยาสลายใช้ได้ทั้งยกกระชับ ปรับรูปหน้า ลดแก้ม ลดเหนียง กระชับสัดส่วนที่ต้นแขน ต้นขา ไปจนถึงหน้าท้อง หลังจากฉีดเสร็จทันทีผิวจะกระชับมากขึ้นกว่า 10-20%
  
• Sisi : สำหรับเมโสแฟตของ Sisi ที่นำเข้าจากเกาหลีนี้จะผลิตขึ้นมาด้วยกัน 2 สูตรที่คิดค้นขึ้นมาใช้ในแต่ละส่วนโดยเฉพาะ คือ สูตรที่ใช้สำหรับฉีดสลายไขมันบนใบหน้าจะเป็นขวดสีแดง และสูตรที่ใช้สำหรับสลายไขมันบริเวณต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง หรือบริเวณลำตัว จะเป็นขวดสีนำเงิน
  ซึ่งความเข้มข้นของทั้งสองสูตรก็จะมีความแตกต่างกันตามความเหมาะสมที่ใช้ในแต่ละจุด ส่วนผสมหลักของ Sisi คือจะมีส่วนผสมของพืชกว่า 12 ชนิด, วิตามิน B, สารสกัดจากดอกไม้ทะเล และสาร Disodium ที่มีคุณสมบัติช่วยสลายไขมันและกระชับผิว ในระหว่างฉีดจะไม่รู้สึกแสบ ไม่ปวด และไม่บวม นอกจากนี้ยัง ไม่มีส่วนผสมของ L-Carnitine คนที่แพ้อาหารทะเลจึงสามารถเมโสแฟตตัวนี้ใช้ได้
  
• Miracle B Plus : เมโสแฟตที่มาพร้อมกับการใช้เทคนิคการผลักตัวยาเข้าสู่ชั้นไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง เพื่อทำการลดไขมันได้แบบเฉพาะจุด สลายไขมันสะสม พร้อมกับระงับการสร้างเซลล์ไขมันใหม่ ทำให้ขนาดของเซลล์ไขมันเล็กลงและจำนวนก็ลดลงด้วย จุดเด่นของเมโสแฟตจากเกาหลีตัวนี้ก็คือ ตัวยาผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติ
  สารสกัดพิเศษ ที่สำคัญคือ Wheat Geat , Lacitin and Centella Asiatica ที่มีคุณสมบัติ ช่วยเผาผลาญ ขจัดไขมัน และยังช่วยยกกระชับได้ดี และมีความปลอดภัย กับร่างกาย สามารถใช้ลดไขมันส่วนเกิน ใต้ผิวหนัง ได้ทุกบริเวณของร่างกาย เช่น แก้ม ใต้คาง แขน ขา หน้าท้อง และเอว รวมถึง บริเวณที่มีเซลลูไลท์ ต้นขา สะโพก เป็นต้น

การฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน เหมาะสำหรับการกำจัดไขมันส่วนเกินแบบเฉพาะจุด หรือในบริเวณที่สัดส่วนลดลงได้ยาก หรือในกรณีที่ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานแต่สัดส่วนยังไม่ลดลง หรือยังไม่กระชับ ก็สามารถใช้เมโสแฟตสลายไขมันได้ และยังเหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนด้วยเช่นกัน ซึ่งจุดเด่นของการสลายไขมันโดยการฉีดแฟตก็คือ สามารถลดไขมันลงได้อย่างเร่งด่วน

ผลลัพธ์หลังจากการฉีด

โดยส่วนใหญ่แล้ว หลังจากการฉีดเมโสแฟต เพื่อสลายไขมันจะเริ่มเห็น ถึงการเปลี่ยนแปลง หรือผลลัพธ์ภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ และยิ่งจะเห็นผล ได้ชัดเจนที่สุด หลังจากที่ฉีดเมโสแฟตไปแล้ว เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน และจะเห็นผลต่อเนื่อง ยาวนานกว่า 3 เดือน วิธีการดูแลตัวเอง หลังจากที่ฉีดเมโสแฟต นั้นมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก เน้นการดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ ปริมาณ 2 ลิตรต่อวัน งดการดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 3-5 วันแรก งดสูบบุหรี่ด้วยเช่นกัน ไม่ควรกด นวดในบริเวณที่ฉีด และงดการทำทรีทเม้นต์ การอบซาวน่าเป็นเวลา 1 อาทิตย์

เมโสแฟตสูตรที่อันตรายมี 2 ชนิด

ยากลุ่มแรกเป็นยาสเตียรอยด์

ปกติยาในกลุ่มนี้แพทย์ผิวหนังจะนำมาใช้ในการฉีดสิว ฉีดรักษาคีลอยด์ ยาสเตียรอยด์หากใช้ในปริมาณที่น้อยและใช้อย่างถูกวิธีจะไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าหากนำมาใช้อย่างผิดวิธี เช่น การนำเอายาสเตียรอยด์มาผสมในปริมาณที่มากกับเมโสแฟตที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก อย. ไทย เพื่อเป็นการลดต้นทุนราคายา เมื่อฉีดบ่อย ๆ ก็จะเกิดผลข้างเคียง ทั้งอาการบวม เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะเกิดการกดภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ยากลุ่มที่สองเป็นยาสลายฟิลเลอร์

ยาสลายฟิลเลอร์ หรือ Hyaluronidase ปกติจะใช้ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ซึ่งสลายได้อย่างปลอดภัย แต่บางครั้งตัวยานี้ก็ถูกนำมาใช้อย่างผิดวิธี และถ้าฉีดยา Hyaluronidase ในปริมาณที่มาก ๆ จะส่งผลทำให้คอลลาเจนที่อยู่ชั้นผิวถูกสลายไปด้วย ทำให้เนื้อยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว เมื่อใช้ยาตัวนี้บ่อย ๆ หรือใช้หลายครั้งติดต่อกัน ผลที่ตามมาก็คือจะเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ผิวหนังเกิดการหย่อนคล้อย เพราะคอลลาเจนเสื่อมสภาพลง