5 จุดยอดฮิต ศัลยกรรมผู้ชาย
พฤศจิกายน 21, 2022หัตถการ ที่แก้ ปัญหาผิวแต่ละช่วงวัย ได้อย่างตรงจุด
พฤศจิกายน 21, 2022อย่างที่ทราบกันดีว่า Bo มักถูกนำมาใช้ ในการทำหัตการ เพื่อปรับรูปหน้า และใช้สำหรับการ ลดริ้วรอย ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ในวงการเสริมความงาม เพราะมีขั้นตอน การทำหัตถการ ที่ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาไม่นาน สามารถปรับรูปหน้า ได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด หลังฉีดเห็นผลลัพธ์ ได้อย่างชัดเจน ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะเป็นผู้พิจารณาว่า ควรใช้โบในปริมาณเท่าไหร่ สำหรับส่วนต่าง ๆ บนใบหน้า รวมไปถึงการพิจารณาจากปัญหาบนใบหน้าของผู้เข้ารับบริการด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ยิ้มแล้วหน้าไม่แข็ง
Bo 1 ขวดมี่กี่ยูนิต ?
โบ คือ สารสกัดที่ได้จากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) สารที่ได้จะมีชื่อเรียกว่า โบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) โดยปกติแล้วจะมีลักษณะเป็นผงแห้ง ๆ บรรจุมาในขวด ซึ่งจะเรียกหน่วยบรรจุเป็น Bo ยูนิต ที่เป็นปริมาตรของผง ดังนั้นจึงไม่สามารถเทียบเป็นปริมาตรแบบ cc ได้ โดยโบ 1 ขวดจะมีขนาดตั้งแต่ 50 ยูนิต, 100 ยูนิต, 200 ยูนิต และในบางยี่ห้อก็จะมีขนาดบรรจุมากถึง 300 ยูนิต ก่อนที่จะนำโบมาฉีดให้กับผู้เข้ารับบริการนั้นจำเป็นจะต้องมีการนำตัวยาไปผสมกับน้ำเกลือ เพื่อให้ตัวยาละลาย โดยจะต้องใช้อัตราส่วนดังนี้
- 100 Unit : ในการละลายตัวยาปริมาณ 100 ยูนิต จะต้องใช้น้ำเกลือปริมาตร 2.6 cc
- 50 Unit : ในการละลายตัวยาปริมาณ 50 ยูนิต จะต้องใช้น้ำเกลือปริมาตร 1.3 cc
อัตราส่วนในการผสมตัวที่แจ้งในข้างต้นเป็นอัตราส่วนที่เป็นมาตรฐาน และเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากการผสมตัวยาไม่เป็นไปตามสัดส่วนดังกล่าว หรือมีการเจือจางตัวยาด้วยการผสมน้ำเกลือมากกว่าที่กำหนด จะทำให้ตัวยากระจายไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ ทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน และอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว ตาตก
ฉีดตรงไหนใช้กี่ยูนิต ?
- หน้าผาก : สังเกตรอยย่นบนหน้าผาก ได้ด้วยการแสดงสีหน้าตามอารมณ์ต่าง ๆ ซึ่งจะเห็นเป็นรอยย่นตรงหน้าผาก หรือบางครั้งในคนที่มีอายุมากขึ้นริ้วรอยนี้ก็มองเห็นได้ง่าย แม้จะไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ สำหรับการฉีดโบ เพื่อลดริ้วรอยในส่วนนี้จะต้องใช้ประมาณ 10-20 ยูนิต
- ระหว่างคิ้ว : การสังเกตริ้วรอยระหว่างหัวคิ้วสามารถทำได้โดยการยักคิ้ว ขมวดคิ้ว หรือการเลิกคิ้วขึ้นไป ถ้ามองเห็นเห็นเป็นเส้นเล็ก ๆ ตรงบริเวณระหว่างคิ้ว หากต้องการรักษาริ้วรอยนี้ด้วยการฉีดโบ จะต้องใช้ประมาณ 12-20 ยูนิต
- หางตา : ริ้วรอยที่อยู่บริเวณหางตา หรือที่เรียกกันว่ารอยตีนกาจะสังเกตเห็นได้ง่าย ในเวลาที่ยิ้ม หรือหัวเราะ จะเห็นเป็นรอยย่น ๆ อยู่บริเวณหางตา ถ้าหากอยากให้รอยย่นนี้สายไปสามารถรักษาได้ด้วยการฉีดโบ ซึ่งจะต้องใช้ประมาณ 10-20 ยูนิต
- ปีกจมูก : การฉีดที่บริเวณปีกจมูกจะทำให้ปีกจมูกดูเล็กลง เวลายิ้มแล้วจมูกไม่บาน เพราะการฉีดโบจะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณด้านข้างปีกจมูก และจะต้องใช้โบประมาณ 10-20 ยูนิต สำหรับปีกจมูกทั้งสองฝั่ง
- กราม : การฉีดโบตรงบริเวณกราม จะช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อในส่วนนี้ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น รูปหน้ามีขนาดเล็กลง เหมาะสำหรับคนที่อยากให้รูปหน้าเป็นทรง V-Shape แต่ควรฉีดโบประมาร 50-60 ยูนิต เพราะอาจจะทำให้หน้าดูตอบมากเกินไป ไม่สดใส โหนกแก้มยกสูง จะทำให้ดูแก่กว่าวัย
- กรอบหน้า : การฉีดโบกระชับใบหน้าหรือ การลิฟติ้งหน้า จะมีเทคนิคดังนี้ คือฉีดบริเวณแนวกรอบหน้า เพื่อยกกระชับผิวหน้าทำให้ดูมีมิติมากขึ้น และฉีดไปที่กล้ามเนื้อ Platysma บริเวณลำคอ เพื่อทำให้หน้ายกกระชับ ในการลิฟท์กรอบหน้าจะใช้โบประมาณ 30-50 ยูนิต
การดูแลตัวเองหลังจากการฉีดโบ
เพื่อให้โบอยู่ได้นาน หลังจากการฉีดในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรก ไม่ควรนอนราบ ไม่ควรก้มต่ำกว่าระดับหัวใจ โดยในคืนแรกหลังจากการฉีด ควรนอนหนุนหมอนสูงและอยู่ในท่านอนหงาย เพื่อป้องกันไม่ให้โบ ไหลไปบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ ควรงดการกด นวด คลึง บีบในจุดที่เพิ่งฉีดมาเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง เพราะตัวยาจะกระจายไปออกฤทธิ์ที่จุดอื่นแทน หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน เช่น การใช้ไดร์เป่าผม การทำเลเซอร์ ซาวน่า หรือการออกไปโดนแดดจัด ในช่วง 2-3 สัปดาห์ เพราะความร้อนจะทำให้โบ เสริมสภาพเร็วขึ้น เวลาล้างหน้าควรล้างอย่างเบามือและซับหน้าเบา ๆ อย่าลืมไปพทแพทย์ตามนัดด้วยทุกครั้ง
ใครที่กำลังสนใจอยากฉีดโบ เพื่อการปรับรูปหน้าให้มีขนาดลดลง ใบหน้าเรียวขึ้น กรอบหน้าคมชัด ดูมีมิติมากขึ้น หรือต้องการลดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกคลินิก สามารถปรึกษาและสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ UD Clinic เรายินดีให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล ถ้าฉีดโบที่ไหนไม่ลง ฉีดที่นี่วีเชฟแน่นอน