ใครมีแพลนที่จะ แก้จมูก ต้องอ่านบทความนี้ ! ในการเสริมจมูกใคร ๆ ก็คาดหวังว่า เสริมเพียงครั้งเดียว แล้วจะได้ทรงจมูกสวยตามแบบที่ต้องการ แต่ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน ที่เสริมครั้งแรกแล้ว ได้ทรงจมูกไม่ตรงใจสักเท่าไหร่ อาจจะเป็น เพราะไม่ได้ใช้เทคนิคอื่น ๆ เข้าช่วย เสริมด้วยซิลิโคนเพียงอย่างเดียว ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของจมูกได้อย่างครอบคลุม จึงจำเป็นที่จะต้องมีการทำจมูกใหม่ และก็มีอีกหลายเคสที่ต้องแก้จมูก เพราะเกิดปัญหาขึ้น หลังจากที่เสริมไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาการอักเสบ ติดเชื้อ ไปจนถึง จมูกทะลุ ซึ่ง แก้จมูกราคาเท่าไหร่ ทำไมถึงราคาสูงกว่าการเสริมใหม่นั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้
หลังจากที่เสริมจมูกไปแล้ว เกิดการเบี้ยวเอียงของซิลิโคน อาจมีสาเหตุจากการที่ ฐานจมูกเดิมก่อนเสริม มีความคดเอียงอยู่ก่อนแล้ว หรือเกิดจากการตัดแต่งซิลิโคน ที่มีความยาวเกินพอดี ทำให้เกิด จมูกเอียง ซึ่งหากวัดตรงตำแหน่งระหว่างคิ้ว หัวหา มาจนถึงปลายจมูก จะเห็นว่าซิลิโคน ไม่ได้อยู่ตรงตำแหน่งกึ่งกลางริมฝีปากบน ซึ่งในการแก้ไขจมูก จะต้องใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อนำเอาซิลิโคนเก่า และเลาะพังผืดออก ก่อนที่จะทำการปรับโครงสร้างจมูก เช่น แก้จมูกที่คดเอียง ตะไบฮัมพ์ จากนั้นจึงใส่ซิลิโคนที่ออกแบบมาให้เหมาะ กับผู้ที่มาแก้จมูกแบบ Case by Case
ถ้าหากมีอาการปลายจมูกบางใส เจ็บเสียว ๆ ที่ปลายจมูก ปลายจมูกแดง หรือปลายจมูกงุ้มผิดปกติ และซิลิโคนเสริมจมูกทะลุออกมา อาจเป็นเพราะว่าเกิดจากการที่ เลือกใช้ซิลิโคนเสริมจมูกที่ยาวเกินไป มีขนาดไม่พอดี ไม่เหมาะสม กับลักษณะโครงสร้างจมูกเดิม ซึ่งถ้าหากปลายจมูกทะลุ ควรรีบพบแพทย์ในทันที เพื่อแก้ไขจมูกด้วยการผ่าตัด เพื่อนำเอาซิลิโคนเก่าและเลาะพังผืดออก ถ้าหากอาการจมูกทะลุ ไม่มีการติดเชื้อร่วมด้วยก็สามารถ ปรับโครงสร้างจมูก แล้วเสริมซิลิโคนใหม่ได้เลย แต่ถ้าหากมีอาการอักเสบ ติดเชื้อ จะต้องมีการพักจมูกก่อน ไม่สามารถเสริมใหม่ได้ทันที
จมูกติดเชื้อหลังเสริม อาจเป็นเพราะจมูก ได้รับการกระทบกระเทือน หลังจากที่เสริมไป หรือเกิดจากการสัมผัสจมูกบ่อยเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการเกา การสัมผัสแผล อาการที่บ่งบอกว่าจมูกติดเชื้อ คือจะปวดที่บริเวณจมูก เจ็บ หรือมีการบวมแดง บางครั้งจะมีน้ำขุ่น ๆ ไหลออกมาจากจมูก หรือมีน้ำหนองไหลออกมาจากแผล ถ้าหากจมูกติดเชื้อ ต้องรีบพบแพทย์ในทันที เพราะต้องนำซิลิโคนออก และทำการเลาะพังผืดออก จากนั้นจึงรักษาอาการติดเชื้อด้วยการ ทานยาปฏิชีวนะให้หายเป็นปกติก่อน แพทย์จึงจะทำการเสริมซิลิโคนใหม่ให้ได้
การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเหลว ซึ่งตัวซิลิโคนเหลว นั้นเป็นสารแปลกปลอมที่ไม่สามารถสลายตัว ได้เองตามธรรมชาติ ทำให้เกิดการไหลของซิลิโคน ไปยังตำแหน่งอื่น ซึ่งก่อให้เกิดพังผืด และเสี่ยงต่อการอักเสบได้ ปัญหาจากการเสริมจมูก ด้วยซิลิโคนเหลวที่พบ คือจะมีอาการอักเสบ บวมแดง จมูกผิดรูป ดูจมูกใหญ่ ผิวบริเวณจมูกขรุขระ ไม่เรียบเนียน การรักษาจึงจำเป็นจะต้องผ่าตัดเอาสารซิลิโคนเหลว และพังผืดออก และต้องพักจมูกก่อนเสริมใหม่ถ้าหากมีอาการอักเสบและติดเชื้อ
ในการ แก้จมูก แต่ละเคสจะมีความยากง่าย แตกต่างกันออกไปตามปัญหาโครงสร้างของจมูก รวมไปจนถึงปัญหาของวัสดุ ที่นำมาใช้เสริม เช่น พังผืดที่สะสมมาเป็นเวลานาน เส้นไหมที่ร้อยจมูกมาเป็นเวลานาน และสารเหลวที่ฉีดเข้าไปเพื่อเสริมจมูก ทั้งหมดนี้เมื่อเวลาผ่านไป อาจจะส่งผลต่อโครงสร้างภายในจมูกได้ จึงจำเป็นจะต้องนำออกให้หมด และทำความสะอาดโครงสร้างภายในจมูก ให้เรียบร้อย เพราะจะช่วยลดการติดเชื้อ และลดการเบี้ยวเอียง ของซิลิโคนที่จะเสริมเข้าไปใหม่ได้
นอกเหนือจากปัญหา ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ก็มีอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้หลาย ๆ คนตัดสินใจแก้จมูกทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีปัญหา เรื่องของการอักเสบ หรือจมูกทะลุ นั่นเป็นเพราะว่า จมูกที่เคยเสริมไป ไม่ได้รูปทรงจมูกตามที่ต้องการ หรือต้องการแก้ไข ปลายจมูกที่ใหญ่ จมูกบาน ปีกจมูกกว้าง และต้องการแก้ไขปัญหาปลายจมูกสั้น เนื้อจมูกน้อย ซึ่งจะต้องทำการผ่าตัดแก้ไข เพื่อให้ได้รูปทรงจมูกดูเรียวยาว โด่งพุ่งขึ้นจากเดิม ได้จมูกที่สวยงามสมบูรณ์แบบ
ใครที่กำลังตัดสินใจอยากจะแก้จมูกให้ได้ทรงสวย โด่ง สโลป ปลายพุ่ง ตามเทรนด์ไม่ตกยุค แต่ยังไม่ได้เลือกว่าจะ แก้จมูกที่ไหนดี หรือกำลังพบกับปัญหาหลังจากการเสริมจมูก เช่น จมูกอักเสบ หรือจมูกใกล้จะทะลุ ทาง UD Clinic ยินดีให้คำปรึกษาโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านศัลยกรรม และเรายังเป็นสถาบันความงามที่น่าเชื่อถือ UD Clinic ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพหลายรางวัล