“ ใต้ตาคล้ำ หย่อนย้อยห้อยเป็นถุง ” ถ้าพูดกันในสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น คงยังไม่มีใครเข้าใจ และไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตเรา จะมีสิ่งนี้ปรากฏขึ้นมาเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น รู้ตัวอีกทีสิ่งนี้ก็ค่อย ๆ คืบคลานมาปรากฏตัว ให้เห็นเด่นชัดบนใบหน้าเราไปแล้ว แม้ว่าเราจะตัดสินใจไปที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อกอบโกยพลิกฟ้า หาครีมเกี่ยวกับใต้ตามาเพื่อรักษา แต่ก็ดูเหมือนว่าระยะเวลา ในการเห็นผลมันช่างช้า และรู้สึกไม่ทันใจไปแล้ว ในวันนี้ UD Clinic จะพาทุกท่าน มาชมนิทรรศการทางบทบรรยาย การเขียนขนาดย่อมเกี่ยวกับ 4 ร่องใต้ตาลึก ที่ไม่ว่าจะวัยมัธยม วัยทำงาน หรือวัยเกษียณก็ไม่ควรมองข้ามมาให้ได้อ่านกันในลำดับต่อไป
สาเหตุ ปัญหาใต้ตา เกิดจากอะไร ?
ปัญหาร่องใต้ตา เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องอายุอย่างเดียว ปัญหา ใต้ตาคล้ำ ร่องใต้ตาลึก จึงเป็นปัญหาที่คนแทบทุกข่วงวัยจำเป็นต้องให้ความใส่ใจเช่นเดียวกัน
- การขยี้ตาบ่อย ๆ หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าจริง ๆ แล้วการขยี้ตาบ่อย ๆ ก็มีส่วนทำให้การใต้ตาคล้ำ และร่องลึกเช่นเดียวกัน ทุกครั้งที่ฝุ่น มีละอองเข้าตา หรือผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการขยี้ตา นอกจากจะช่วยลดการเกิดร่องลึกใต้ตาแล้ว ยังช่วยให้รักษากระจกตาเอาไว้ได้อีกด้วย
- การใช้ชีวิต พักผ่อนน้อย นอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียดสะสม ปัญหาเหล่านี้ก็สามารถส่งผลให้เกิดใต้ตาดำและคล้ำได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตเซลล์หรือซ่อมแซมตัวเองได้มากเท่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้เซลล์เกิดการเสื่อมหรือประสิทธิภาพถดถอยลง อาทิ คอลลาเจน อีลาสติน แถวบริเวณแนวใต้ตาไม่ได้รับการฟื้นฟูเท่าที่ควร จึงการร่องใต้ตาขึ้น
- กรรมพันธุ์ ครอบครัวหรือเชื้อสายมี โครงสร้างใบหน้าที่เบ้าตาลึก หรือไขมันแถวบริเวณใต้ตาน้อยกว่าปกติ ก็สามารถส่งผลให้เกิดร่องใต้ตาได้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น เป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงได้ยากที่สุด เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นไขมันบริเวณใต้ตา อีลาสติน หรือคอลลาเจน ก็จะทำการสร้างออกมาได้ไม่เท่ากับ สมัยตอนที่ยังอายุน้อย ส่งผลให้ผิวใต้ตาเกิดการหย่อนคล้อย เกิดร่องลึกบริเวณใต้ตา ไปจนถึงการเกิดเป็นถุงใต้ตา

ปัญหาร่องใต้ตา 4 แบบ
หลังจากที่ได้กล่าวถึงสาเหตุ ของปัญหาร่องใต้ตาทั้ง 4 แบบที่จะกล่าวไปแล้ว ต่อไปจะเล่าถึงร่องใต้ตาทั้ง 4 แบบ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ กับทุกช่วงวัย ซึ่งจะเป็นการแบ่งตามพัฒนาการ ของร่องใต้ตาจากขั้นเริ่มต้น ไปสู่ขั้นที่มีผลกระทบต่อใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด ดังนี้
- แบบที่ 1 มีร่องหย่อนคล้อยเล็ก ๆ มีความคล้ำจากบริเวณหัวตา โค้งลงมาแถวบริเวณกลางตา ซึ่งสาเหตุของร่องใต้ตาแบบนี้มาจากการพักผ่อนน้อย ขยี้ตาบ่อย ซึ่งจะเป็นร่องที่ไม่ลึกมากและสามารถแต่งหน้ากลบปิดความคล้ำได้ มักเกิดในกลุ่มที่อายุประมาณ 18 ปีขึ้นไป
- แบบที่ 2 เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ไขมัน อีลาสติน และคอลลาเจนบริเวณใต้ตาเสื่อมลง ผลิตได้น้อยลง ทำให้ใต้ตาดูไม่เต็ม อิ่มเอิบเหมือนแต่ก่อน เกิดแถวบริเวณหัวตาชิดติดกับใต้ตาเป็นแนวยาวลากไปจนถึงหางตา
- แบบที่ 3 หลังจากที่แบบ 1 และ 2 เกิดขึ้นไปแล้วจะทำให้ผิวหนังบริเวณที่อยู่ตรงกลางเกิดความหย่อนคล้อย ส่งผลให้กลายเป็นถุงใต้ตาขนาดย่อม เห็นได้ยังไม่ค่อยชัดมากนัก
- แบบที่ 4 ถุงใต้ตาที่มีขนาดใหญ่และหย่อนคล้อย สามารถเห็นได้ชัดไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของใบหน้า เป็นถุงกระเปาะขนาดเล็กย้อยห้อยลงมา มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วิธีการแก้ปัญหาร่องใต้ตา
- ลดการขยี้ตาบ่อย ๆ พยายามไม่เกาหรือขยี้บริเวณรอบดวงตา วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องใต้ตาตามแบบที่ 1 ซึ่งอาจจะช่วยลดการเกิดร่องลึกขึ้นที่อาจตามมาหลังจากนี้ได้
- การทาอายครีม มาส์กใต้ตา เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วงให้ความคล้ำของใต้ตาให้ดีขึ้นได้ แต่ในแง่ของการเกิดร่องลึกอาจช่วยไม่ได้มากนัก อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นวิธีที่ใช้ระยะเวลาในการเห็นผลค่อนข้างนาน จำเป็นต้องมีการปฏิบัติและดูแลอย่างสม่ำเสมอ
- การนอนหลับให้เพียงพอ วิธีที่ช่วงลดร่องลึกและลดใต้ตาคล้ำได้อย่างเห็นผล แต่ตามที่กล่าวไปในข้างต้น วิธีการนี้มีความคล้ายคลึงกับการทาอายครีมและมาส์กบำรุงใต้ตาที่ต้องใช้ความสม่ำเสมอในการดูแล ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการดูแลอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ จะส่งผลให้ไม่จำเป็นต้องมาแก้ปัญหาเพิ่มตามมาในภายหลัง เหมาะสำหรับทุกคนตั้งแต่ผู้ที่ยังไม่มีร่องลึกใต้ตาจนไปถึงมีถุงใต้ตาแล้ว การนอนหลับอย่างเพียงพอและไม่เครียดบ่อยจะทำให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็ว ชัดเจน ไม่อยากผ่าตัดถุงใต้ตา และไม่มีเวลาพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตต่อได้ทันทีหลังเติมฟิลเลอร์
การเติมฟิลเลอร์ใต้ตา
การเติมฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการช่วยแก้ปัญหาร่องใต้ตา ตั้งแต่แบบที่ 1 จนถึงแบบที่ 4 โดยฟิลเลอร์สามารถเข้าไปเติมเต็ม ความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตาได้ดีมาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นการเติมเนื้อฟิลเลอร์ เข้าไปในชั้นผิวบริเวณไขมัน ซึ่งจะอยู่เหนือชั้นเส้นเอ็น กล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้ผิวที่เกิดร่องไปนั้น ถูกเติมเต็มจนฟูขึ้นมาให้เรียบเสมอกัน ทั้งนี้ระยะเวลาของฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ การดูแลรักษาตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วของคนไข้ และความเชี่ยวชาญของคุณหมอ

ปัญหาร่องใต้ตา เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ อาทิ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด กรรมพันธุ์ อายุที่เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น ร่องใต้ตาทั้ง 4 แบบจากขั้นเริ่มต้นไปสู่ขั้นที่มีผลกระทบต่อใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้เกิดผลกระทบในการใช้ชีวิตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และอาจสร้างความไม่มั่นใจให้กับใครหลายคน วิธีการแก้ปัญหาร่องใต้ตาสามารถทำได้ด้วยวิธีที่หลากหลาย แต่วิธีที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ชัดเจน และไม่จำเป็นต้องมีการพักฟื้นจากแผลผ่าตัด ที่น่าสนใจซึ่งก็คือ หัตถการฟิลเลอร์ใต้ตา โดยผู้ที่ประสบปัญหาควรเลือกคลินิกที่มีความสะอาด คุณหมอเชี่ยวชาญ และใช้ฟิลเลอร์แท้ เพื่อเป็นก้าวที่สำคัญ และเสี่ยงน้อยที่สุดสำหรับการดูแลร่องใต้ตา