หลุมสิว รักษาผิวหน้าให้เรียบเนียนขึ้นด้วยการทำ Subcision

ปัญหาผิวหน้าที่หลาย ๆ คนจะต้องเผชิญนั่นก็คือปัญหา สิว ทั้งสิวอุดตัน สิวหัวดำ สิวอักเสบ หรือแม้แต่สิวหัวช้าง ซึ่งถ้าหากรักษาอย่างไม่ถูกวิธี จากเป็นแค่สิวก็อาจจะเกิด ปัญหาลงไปยังชั้นผิวจนกลายมาเป็นแผลเป็น หรือ หลุมสิว ได้ซึ่งหลุมสิวยังแบ่งออกได้อีกหลายประเภท และในการรักษาหลุมสิวก็มีด้วยกันหลากหลายวิธี สำหรับบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับการรักษาหลุมสิวให้ตื้นขึ้น รักษาให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นด้วยการทำหัตถการ Subcision

สาเหตุหลักของการเกิดหลุมสิว

รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว รวมไปถึง หลุมสิว นั้นเป็นผลมาจากการที่เป็นสิวอักเสบ ที่ส่งผลทำให้ผิวหนังที่เกิดการอักเสบนั้นเสียหาย ตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย เมื่อเกิดแผลร่างกายก็จะทำการสร้างคอลลาเจน เพื่อเข้าไปทดแทนซ่อมแซมผิวในส่วนที่ถูกทำลายจนเสียหาย แต่ในการเรียงตัวของเส้นใย คอลลาเจนอาจจะไม่สม่ำเสมอ ไม่เป็นระเบียบ ทำให้เกิดรอยนูนกลายเป็นรอยแผลเป็น ส่วนที่เกิดรอยยุบลงไปกลายเป็นหลุมสิว จะมีสาเหตุมาจากการอักเสบของผิวหนังเช่นเดียวกัน แต่มีการติดเชื้ออย่างรุนแรง คอลลาเจนในชั้นผิวบริเวณนั้นถูกทำลาย จนยุบตัวเป็นโพรง จนสังเกตเห็นเป็นหลุมเล็ก ๆ มากมายบนผิวหน้า

การรักษาหลุมสิว

วิธีการ รักษาหลุมสิวในปัจจุบันมีด้วยกันหลายวิธี มีตั้งแต่วิธีการรักษาแบบธรรมชาติ ไปจนถึงการเลือกรักษา ด้วยวิธีทำหัตถการทางการแพทย์ ซึ่งในครั้งนี้เราได้รวบรวมเอา 5 วิธีการรักษาหลุมสิวที่ให้ผลลัพธ์ หลังการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ตอบโจทย์ในการรักษาหลุมสิว และได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในขณะนี้

• การทาครีมที่มีส่วนผสมของ Retinoids (วิตามินเอ)  เช่น Retin-A, Retacnyl, Acnetin-A หรือครีมที่มีส่วนผสมของ AHA และ BHA ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว หลุมสิวจึงดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูเรียบเนียนมากขึ้น การทาครีมจะเหมาะสำหรับการรักษาหลุมสิวแบบ Rolling Scar
• การฉีดฟิลเลอร์ Filler หรือสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูโรนิค จะเข้าไปทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้มาก 30-70 เปอร์เซ็นต์ เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งจะนิยมนำมารักษาหลุมสิวแบบ Rolling Scar และหลุมสิวแบบ Box Scar ในการฉีดฟิลเลอร์เพียงหนึ่งครั้งจะให้ผลลัพธ์ยาวนานประมาณ 6 – 12 เดือน
• การทำเลเซอร์ เพื่อการรักษาหลุมสิวก็เห็นผลได้อย่างดี มีประสิทธิภาพ และเป็นที่นิยมอีกวิธีหนึ่ง ของการรักษาสิว ซึ่งชนิดของเลเซอร์ที่ใช้จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับชนิดของหลุมสิวด้วย
• การทำ Subcision เพื่อรักษาสิวด้วยการใช้เข็มขนาดเล็ก Nokor Needle เป็นเครื่องมือเข้าไปตัด เซาะพังผืดใต้ชั้นผิวหนัง บริเวณที่เป็นหลุมสิวที่ละหลุม ๆ โดยทำทั่วทั้งใบหน้า เมื่อพังผืดที่ยึดหลุมสิวหลุดออก ผิวก็จะลอยตัวขึ้น
• การทำ PRP รักษาหลุมสิว คือการนำเอาเลือดของผู้เข้ารับบริการเอง มาสกัดเอาเกล็ดเลือดเข้มข้น ที่มีโกรทแฟคเตอร์เป็นส่วนประกอบอยู่ในนั้น ตัวโกรทแฟคเตอร์จะเข้าไปฟื้นฟูผิวหน้า ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น การทำ PRP มักจะทำควบคู่กับการทำซับซิชั่น

การทำ Subcision

การทำซับซิชั่น คือการตัดพังผืดหลุมสิว โดยการใช้เข็มขนาดเล็ก เป็นเครื่องมือในการตัดพังผืดใต้ชั้นผิวหนัง เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวชนิด Rolling Scar และหลุมสิวชนิด Box Scar และเหมาะกับการรักษาหลุมสิว ที่เป็นมานานแล้ว ในการทำซับซิชั่นจะค่อย ๆ เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง และต้องมีการทำอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนตั้งแต่ 3-5 ครั้ง ในการทำซับซิชั่นในแต่ละครั้งอาจจะต้องเว้นระยะห่างกันประมาณ 3-6 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ในช่องว่างที่เกิดจากการตัดพังผืดออก คอลลาเจนจะเข้าไปเติมให้หลุมสิวตื้นขึ้น

ขั้นตอนการทำ Subcision

• ทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระหว่างที่ทำซับซิชั่น
• จากนั้น จะต้องมีการใช้ยาชา โดยแปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 30 – 45 นาที หรืออาจจะใช้การฉีดยาชาแทนได้
• แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็ก สอดลงไปใต้ผิวหนัง เพื่อตัดพังผืดใต้หลุมสิวให้ขาด โดยทำทีละหลุม ๆ จนทั่วทั้งใบหน้า
• ในระหว่างที่ทำการตัดพังผืดใต้หลุมสิว จะมีเลือดออก จึงต้องมีการซับเลือดและการประคบเย็น เพื่อช่วยลดอาการบวมในระหว่างที่ทำด้วย
• ควรเข้ามาติดตามอาการ และติดตามผลการรักษาตามที่แพทย์นัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง

ข้อดีของการรักษาหลุมสิวด้วยการทำซับซิชั่น

• เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวแบบมีประสิทธิภาพ เหมาะกับการใช้รักษาในเคสที่เป็นหลุมสิวมานาน
• ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น เพราะแผลที่เกิดจากเข็มตัดพังผืด มีขนาดเล็กมาก
• ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาหลุมสิวด้วยวิธี การทำเลเซอร์ และยังไม่เกิดอาการผิวหน้าบาง แสบหน้า เหมือนกับการทำเลเซอร์

ในการทำซับซิชั่น หรือการตัดพังผืดหลุมสิว สามารถสร้างรอยช้ำ ให้กับผิวหน้าได้ ซึ่งรอยนั้นอาจจะอยู่ได้นานหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ของในแต่ละเคส หรือในบางเคสอาจจะพบรอยเขียวช้ำ เพราะเข็มไปโดนเส้นเลือด แต่รอยเขียวช้ำนี้ไม่ได้เป็นอันตราย ในการเลือกวิธีการรักษาหลุมสิว ควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ มีการทำให้ปลอดเชื้อ เพราะการทำซับซิชั่น เกิดบาดแผล จึงทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการทำ Subcision เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกวิธีการรักษาหลุมสิว ให้เหมาะสมมากที่สุด และแก้ไขปัญหาตรงจุดมากที่สุด