หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นชื่อกับการทำโปรแกรม PRP ที่นำเอาเกล็ดเลือดเข้มข้นมาใช้ในการฟื้นบำรุงผิวหน้า หรือที่เรียกว่า PRP หน้าใส รวมไปถึงการ PRP ปลูกผม แต่คุณประโยชน์ของการทำพีอาร์พี ไม่ได้มีแค่เพียงเท่านี้ พีอาร์พียังถูกนำมาใช้ในการฟื้นฟูผิว รักษาหลุมสิว ร่วมกับการทำ Subcision หรือการเลาะนำเอาพังผืดใต้หลุมสิวออก คือเป็นทั้งการรักษาที่ควบคู่ไปกับการฟื้นฟู จึงทำให้การรักษา หลุมสิว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าหากคุณอยากมีผิวหน้าเรียบเนียน และต้องการให้หลุมสิวตื้นขึ้น ต้องห้ามพลาดบทความนี้
สิว เป็นปัญหาผิวที่สามารถทิ้งร่องรอยแผลเป็นเอาไว้บนผิวหน้าได้ ซึ่งหลุมสิวส่วนใหญ่เกิดจาก สิวอักเสบ ที่ทำร้ายผิว และทิ้ง รอยหลุมสิว เอาไว้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดสิวอักเสบแล้วไม่มีการรักษาอย่างถูกวิธี มีการบีบหรือแกะ ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่ผิว ซึ่งในกระบวนการธรรมชาติ ผิวจะมีการซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งในขั้นตอนนี้ร่างกาย จะสร้างคอลลาเจนขึ้นมา บางครั้งร่างกายก็สร้างคอลลาเจนได้ไม่เพียงพอ จึงทำให้ผิวหน้าเกิดเป็นรอยยุบลงไป เป็นหลุม ลักษณะของแผลเป็น หรือหลุมสิวที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันตามระดับความรุนแรง ดังนี้
การทำ Subcision เป็นหัตถการที่ใช้ รักษาหลุมสิว อีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ขั้นตอนการทำ Subcision หรือการกำจัดพังผืดใต้หลุมสิว จะเป็นการใช้เข็มขนาดเล็ก ในการสอดเข้าไปใต้ผิวและทำการตัด เซาะพังผืดที่ใต้หลุมสิว เพื่อทำให้หลุมสิวเรียบเนียน มีความสม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะสำหรับการใช้รักษาหลุมสิวประเภท Boxscar Scar การตัดพังผืดใต้หลุมสิว
สามารถทำได้ทั้งหลุมสิวทั้งแบบตื้นและแบบลึก เหมาะกับคนที่เป็นหลุมสิวมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีนี้ เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาหลุมสิวได้อย่างตรงจุด สามารถรักษาหลุมสิวให้หายได้ และยังไม่พบผลข้างเคียงในระยะยาว หลังจากที่ทำไม่ต้องมีการพักฟื้น
PRP (Platelet Rich Plasma) คือ เกล็ดเลือดเข้มข้นที่มี Growth Factor ซึ่งเป็นสารสำคัญในการซ่อมแซม ผิวหนังที่เสื่อมสภาพ เพราะโกรทแฟคเตอร์ จะเข้าไปกระตุ้น การซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ กระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจน และสร้างอิลาสติน ผิวจึงมีความเรียบเนียน ตึง กระชับ ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้โกรทแฟคเตอร์ ยังเป็นตัวช่วยสร้างหลอดเลือด เพื่อนำสารอาหารสำคัญมาเลี้ยงผิว ผิวถูกฟื้นฟู ริ้วรอยต่าง ๆ ลดเลือนลง ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นอีกด้วย
การทำ PRP จะต้องใช้เกล็ดเลือดเข้มข้น ที่มีความสมบูรณ์ เพื่อทำให้ประสิทธิภาพ ในการรักษามีมากขึ้น ดังนั้นขั้นตอนสำคัญ ก่อนการทำ PRP จะต้องปรึกษาแพทย์ที่มีความชำนาญ เพื่อการรักษาที่ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน เพราะการทำ PRP ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว ที่ส่งผลต่อการสร้างเลือด เพราะอาจจะได้เกล็ดเลือดเข้มข้น ที่ไม่มีความสมบูรณ์ ทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาลดลง
การรักษาหลุมสิวด้วยการทำ Subcision จะทำให้พังผืด ที่อยู่ใต้หลุมสิวถูกตัดขาด ทำลาย หลุมสิวจึงตื้นขึ้น และเพื่อเร่งกระบวนการ สร้างคอลลาเจนในชั้นผิว เพื่อให้ผิวกระชับ ทำให้ผิวเรียบเนียน และมีความยืดหยุ่น จึงจำเป็นจะต้องพึ่งการรักษา ด้วยการทำ PRP เมื่อรักษาหลุมสิวด้วยการทำสองวิธีนี้ ควบคู่กันไป จะทำให้ขั้นตอนการรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลุมสิวตื้นขึ้นและมีการฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพผิวที่ดีไปพร้อม ๆ กัน การเลือกใช้โปรแกรมการทำ Subcision ร่วมกับการทำ PRP จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการรักษาหลุมสิว