หลาย ๆ คนที่ตัดสินใจไปศัลยกรรมจมูก โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะชื่นชอบทรงจมูกที่มีปลายพุ่ง สันจมูกโด่ง ทำให้หน้าดูเปลี่ยนไปและมีมิติมากขึ้น ซึ่งในครั้งนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการเสริมจมูกให้สวย และปลอดภัย ป้องกันซิลิโคนทะลุ และเนื้อจมูกบางลง และเทคนิคที่ว่านั้นก็คือ การเย็บอินเตอร์โดม การ ตัดปีกจมูก และการใช้เนื้อเยื่อเทียมรองปลาย ควบคู่ไปกับการเสริมจมูก โดยศัลยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าจมูกลักษณะไหนต้องใช้เทคนิคใดบ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้เข้ารับบริการ
การเย็บอินเตอร์โดม (Interdome) คือ การเย็บกระดูกอ่อนปลายจมูกส่วนกลางทั้งสองข้างที่ห่างกัน ให้เข้าหากัน หลังจากการเย็บอินเตอร์โดมจะสังเกตเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของรูจมูก คือ รูจมูกยกขึ้นเป็นวงรี ปลายจมูกเชิดขึ้น จมูกดูเรียวสวย การเย็บอินเตอร์โดมยังช่วยเป็นฐานให้กับการเสริมจมูกซิลิโคนปลายหยดน้ำ ทำให้ได้ทรงจมูกที่พุ่งสวย และสามารถช่วยป้องกันการทะลุของซิลิโคนได้เป็นอย่างดี ประโยชน์ของการเย็บอินเตอร์โดมนอกจากจะทำให้ได้จมูกที่สวยเป็นธรรมชาติแล้ว ก็ยังช่วยเรื่องความปลอดภัยในระยะยาวหลังจากการเสริมจมูกได้อีกด้วย
การเย็บอินเตอร์โดม เป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องของกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูกที่ป่อง และอยู่ห่างกัน โดยเป็นการเย็บกระดูกอ่อนปลายจมูกทั้งข้างซ้ายและข้างขวาเข้ามาให้ชิดกันมากขึ้น ทำให้ปลายจมูกดูเรียวขึ้น เหมาะสำหรับการเสริมจมูกในเคสที่มีปัญหาจมูกใหญ่ โครงสร้างจมูกใหญ่ จมูกชมพู่ ซึ่งเกิดจาก 3 สาเหตุหลัก ๆ คือ
ซึ่งในการแก้ไขปัญหากระดูกคู่หน้าที่บริเวณปลายจมูกใหญ่ แพทย์จะทำการลดขนาดปลายจมูกโดยการใช้เทคนิคการเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) เพื่อให้เห็นโครงสร้างจมูกด้านใน และทำการตัดแต่งกระดูกอ่อนเพื่อให้เรียวเล็กลง เป็นการปรับโครงสร้างก่อนที่จะทำการเย็บอินเตอร์โดม หรือสำหรับกรณีที่มีไขมันหนาบริเวณปลายจมูก แพทย์จะเอาไขมันที่เกาะรอบเนื้อเยื่อบริเวณปลายจมูกออก ทำให้ปลายจมูกเรียวเล็กลง
ยังมีหลาย ๆ คนที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการเย็บกนะดูกอ่อน (Interdome) ว่าเมื่อทำแล้วจะทำให้ปีกจมูกเล็กลง ได้โดยไม่ต้อง ตัดปีกจมูก แต่จริง ๆ แล้วการเย็บอินเตอร์โดม เป็นการเย็บกระดูกอ่อนส่วนปลายของจมูกเข้าหากัน จะทำให้จมูกเชิดขึ้น ดูพุ่ง เป็นทรงมากขึ้น แตกต่างจากการการตัดปีกจมูก เพราะการตัดปีกจมูก คือ การตัดเนื้อบริเวณปีกจมูกออกไป พร้อมกับการปับขนาดของรูจมูกให้มีขนาดเล็กลง
ในการเสริมจมูกให้ได้ทรงที่พุ่ง หรือโด่งมาก ๆ มีความเสี่ยงที่จะทำให้ปลายจมูกทะลุได้ ดังนั้นในการเสริมจมูกจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้หลังจากที่ทำการเสริมจมูกแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ปลายจมูกบาง ซิลิโคนทะลุ ปัญหาเหล่าจะต้องแก้ไขด้วยการถอดซิลิโคนออกไป หรืออาจจะต้องแก้จมูกด้วยการเสริมใหม่ ซึ่งส่งผลเสียเป็นอย่างมาก เสียทั้งเวลาในการพักจมูก เสียเงินในการแก้จมูกใหม่ และเจ็บตัวหลายครั้ง ดังนั้นเพื่อลดโอกาสการทะลุของจมูก จึงจำเป็นต้องใช้ เนื้อเยื่อเทียม รองปลายจมูก
เนื้อเยื่อเทียมเป็นวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้น มีลักษณะคล้ายฟองน้ำ เป็นแผ่นนิ่ม ๆ โดยส่วนใหญ่มักจะถูกนำมาใช้สำหรับการเสริมจมูกในกรณีที่แก้จมูกจากสาเหตุปัญหาผิวหนังปลายจมูกบาง ใกล้ทะลุ หรือเคสที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังค่อย ๆ บางลง และเนื้อเยื่อเทียมก็ยังถูกใช้ในเคสที่เสริมจมูกใหม่ แต่ต้องการให้ปลายจมูกยาวขึ้นและมีผิวหนังเดิมที่ค่อนข้างบาง เพื่อป้องกันการทะลุของซิลิโคน เนื้อเยื่อเทียมเองถูกออกแบบมาให้สามารถใช้แทนการเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหูได้ ทำให้ไม่ต้องเจ็บตัวในการผ่าตัดเพื่อนำเอากระดูกหลังหูออกมาใช้รองปลาย ทำให้ไม่ต้องมีแผลผ่าตัดหลายที่ ไม่ต้องเจ็บตัวเพิ่ม