การฉีดหน้ายอดฮิต อย่างการฉีด ฟิลเลอร์ เพื่อการปรับรูปหน้า เพิ่มมิติให้กับใบหน้า ลดความหมองคล้ำ เติมเต็มร่องลึก ลดเลือนริ้วรอยให้กับผิว นั้นมีให้เห็นได้ทั่วไป ในคลินิกความงาม แต่ไม่ใช่ว่าทุกคลินิก จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ หลังทำไปแล้วอาจจะพบกับอาการเป็นก้อน ทำให้ใบหน้าไม่เรียบเนียน ซึ่งการที่ ฟิลเลอร์เป็นก้อน สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และจะต้องทำการแก้ไขด้วยการ ฉีดสลายฟิลเลอร์ เพื่อให้ผิวบริเวณที่เป็นก้อน นั้นยุบตัวลง ข้อจำกัดสำหรับการฉีดสลาย คือ ใช้ได้กับฟิลเลอร์ ที่เป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid หรือ HA เท่านั้น

สาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน

ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน แต่ไม่อักเสบ มักจะพบว่าเป็นก้อนเดี่ยว ๆ ในบริเวณที่ฉีด เมื่อสัมผัสแล้ว ไม่มีอาการเจ็บ ผิวบริเวณที่เป็นก้อน ไม่มีอาการบวมแดง ก้อนของฟิลเลอร์ในลักษณะนี้อาจะเกิดได้จาก

• ฉีดฟิลเลอร์ผิดวิธี : อาจจะเกิดจากการที่ใช้ ฟิลเลอร์มากเกินไป หรือการฉีดในชั้นที่ตื้น ซึ่งเป็นผลมาจากแพทย์ที่ฉีด ไม่มีความชำนาญ ซึ่งโดยปกติแล้วแพทย์ที่เป็นผู้ฉีดฟิลเลอร์ จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับสรีระบนใบหน้า ทั้งเรื่องของชั้นผิว ชั้นไขมัน ชั้นกล้ามเนื้อ และกระดูกเป็นอย่างดี เพื่อที่จะได้คำนวณ การใช้ฟิลเลอร์ในแต่ละจุด ได้อย่างเหมาะสม
• การเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ : การที่ฟิลเอร์เคลื่อนตัว ไปยังตำแหน่งอื่น เกิดจากการที่แพทย์ไม่มีความชำนาญ ฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้น และฟิลเลอร์เข้าไปอยู่บริเวณ ที่มีการขยับของใบหน้ามาก ๆ ฟิลเลอร์จึงเกิดการเคลื่อนตัว ไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการได้ จุดที่พบบ่อยคือ ร่องแก้ม ขมับ
• ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน : การเลือกใช้ฟิลเลอร์ ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ใช่ Hyaluronic acid เมื่อเวลาผ่านไป ฟิลเลอร์จะไม่สลายไป จับตัวกันเป็นก้อนแข็ง หรืออาจะเคลื่อนที่ ไปอยู่บริเวณอื่น ๆ

ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน และมีอาการอักเสบ ฟิลเลอร์อาจจะจับตัวกันเป็นก้อนเดี่ยว ๆ หรือจับตัวกันเป็นหลาย ๆ ก้อนก็ได้ เมื่อสัมผัสหรือกด จะมีอาการเจ็บ ก้อนฟิลเลอร์ที่พบ จะมีลักษณะบวมแดง หรืออาจจะมีหนองร่วมด้วย

• การติดเชื้อ : การติดเชื้อที่เกิดขึ้น ระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ อาจเกิดได้จากการใช้ ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการใช้ฟิลเลอร์ปลอม รวมไปถึงเชื้อโรคปนเปื้อน ในขณะที่ฉีด เพราะมีเทคนิคการฉีด ที่ไม่ปราศจากเชื้อ อาการติดเชื้อจะพบว่า เป็นก้อนบวมแดง ปวดและมีหนอง
• อาการแพ้ : การฉีดฟิลเลอร์ เข้าไปในร่างกาย มีโอกาสที่จะไปกระตุ้น ภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เกิดการอักเสบได้ แบบเฉียบพลัน คือ ภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมงหลังฉีด หรือในบางรายจะพบว่า มีอาการแพ้หลังจากฉีด ไปแล้วนานเป็นสัปดาห์ ถ้าแพ้ฟิลเลอร์ จะพบว่าหลังฉีดจะเป็นก้อนนูน มีลักษณะบวมแดง
  

การฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วย Hyaluronidase

การ ฉีดสลายฟิลเลอร์ เป็นกระบวนการกำจัดฟิลเลอร์ ที่เหลืออยู่ในชั้นผิว โดยการฉีดเอ็นไซม์ อย่างไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ที่มีฤทธิ์ทำลาย กรดไฮยาลูโรนิก (HA) ในฟิลเลอร์ เข้าไปตรง บริเวณที่เคยฉีด จากนั้น ฟิลเลอร์จะสลายตัวออกจากร่างกาย ได้ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีกำจัดฟิลเลอร์ที่ง่าย และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว การฉีดสลาย จะช่วยแก้ไขปัญหาสำหรับ กรณีที่ฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป หรือหลังฉีดแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนเป็นต้น

ในขั้นตอนการฉีดสลายฟิลเลอร์ จะต้องทำความสะอาดผิว บริเวณที่ต้องการฉีดก่อน จากนั้นจึงใช้ยาชาเฉพาะที่ เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว จึงจะทำการฉีดไฮยาลูโรนิเดส เข้าไป โดยตัวไฮยาลูโรนิเดส เป็นเอ็นไซม์ที่สามารถ ย่อยสลายกรดไฮยาลูโรนิกได้ ซึ่งจะเข้าไปลดการกักเก็บน้ำ ไขมัน และทำลายการยึดเกาะ ของเนื้อฟิลเลอร์ ทั้งยังช่วยปรับสมดุล ให้ผิวที่เคยฉีดฟิลเลอร์ กลับมาเรียบเสมอกัน ให้ใกล้เคียงแบบเดิมมากที่สุด สิ่งสำคัญคือ ในการฉีดสลายแต่ละครั้ง แพทย์จะต้องมีการคำนวณปริมาณยาที่ใช้ ในการฉีดสลายฟิลเลอร์อย่างเหมาะสม

ผลข้างเคียงของการฉีดสลายฟิลเลอร์

ผลข้างเคียงของการฉีดสลายฟิลเลอร์ สามารถเกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับการทำหัตถการทางการแพทย์แบบอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นอาการบวม มรีอยช้ำ รอยแดง อาจจะคันในบริเวณที่ฉีด หรือมีอาการแพ้ เอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส ดังนั้นต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังก่อนเข้ารับการฉีดสลายฟิลเลอร์ และจะต้องเลือกเข้ารับบริการกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อในขณะที่ฉีด

ผลที่ได้จากการรักษา จะเห็นผลได้ในทันทีหลังจากที่ฉีด และจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนเมื่อัวยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่ ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ในระหว่างนี้อาจจะพบอาการบวมในบริเวณที่ฉีดสลายได้ แต่อาการบวมจะหายไปได้เอง ถ้าหากหารฉีดสลายฟิลเลอร์ในครั้งแรกแล้วฟิลเลอร์สลายตัวออกไปไม่หมด สามารถฉีดสลายซ้ำอีกได้ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษาด้วย ถ้าหากว่าต้องการฉีดฟิลเลอร์อีกครั้ง ควรเว้นระยะห่างประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ตัวยาสลายฟิลเลอร์หมดฤทธิ์ก่อน และให้เนื้อเยื่อเข้าที่แล้วจึงฉีดฟิลเลอร์ใหม่อีกครั้ง