การ ทำจมูก เป็นการทำศัลยกรรมเพื่อ การปรับรูปหน้าให้มีมิติ ที่ได้รับความนิยมจนติดอันดับ 1 ใน 3 ของการศัลยกรรม เพื่อการปรับเปลี่ยนใบหน้า หลายเคสหลังจากที่เสริมจมูกไป ก็ได้จมูกโด่งสวย รับกับใบหน้า แต่บางเคสก็เกิดปัญหาขึ้น หลังจากเสริม ทั้งการอักเสบ ติดเชื้อ การที่ร่างกายปฏิเสธซิลิโคน ทำให้เกิดอาการ จมูกทะลุ ซึ่งในครั้งนี้ เราได้รวบรวมเอา 10 สัญญาณที่บ่งบอกว่า จมูกที่เสริมมากำลังมีปัญหา และบางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณเตือนอันตราย ว่าจมูกที่เสริมมานั้น ได้เวลาที่ต้องทำการแก้ไขโดยเร็ว
เนื้อปลายจมูกบาง เป็นสัญญาณเตือน ของอาการจมูกทะลุ โดยจะสังเกตเห็นได้ว่า ที่ตรงบริเวณปลายจมูก จะมีผิวหนังบาง เนื่องจากการเสียดสีของตัวซิลิโคนเสริมจมูก กับเนื้อจมูก เมื่อเวลาผ่านไปผิวจะบางลง จนทำให้เห็นว่า ปลายจมูกใส มีความมันวาว ซึ่งก็คือซิลิโคนที่สะท้อนแสงขึ้นมานั่นเอง
ถ้าหากว่าคุณเริ่มรู้สึกเจ็บ เวลาที่ลูบ หรือสัมผัสไปโดนที่ปลายจมูก นั่นแปลว่าผิวหนัง ที่บริเวณปลายจมูกบางมาก จนทำให้รับรู้ถึงการสัมผัส ได้ชัดเจนกว่าปกติ ไม่นานก็จะเกิดอาการจมูกทะลุ อาจจะสังเกตเห็นว่า ซิลิโคนทะลุออกมาที่บริเวณปลายจมูกได้
เมื่อผิวที่บริเวณปลายจมูกนั้นบางลง ส่งผลให้เม็ดสีจางลง ผิวหนังในบริเวณปลายจมูก จึงมีเฉดสีที่แตกต่างจากบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้าด้วย และจะสังเกตเห็นได้ว่า เวลาที่แต่งหน้า ลงเครื่องสำอาง จะต้องเน้นที่จมูก เพื่อให้สีผิวสม่ำเสมอกับผิวส่วนอื่น ๆ
ทรงจมูกเปลี่ยน จะสังเกตเห็นได้ว่า สันจมูกมีความเบี้ยวเอียง เป็นเพราะซิลิโคน เคลื่อนออกไปจากตำแหน่งเดิม ซึ่งการที่จมูกเบี้ยวเอียง สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่จมูกเริ่มรัดแกน
จากสังเกตเห็นก้อนขรุขระ หรือก้อนตะปุ่มตะป่ำ ที่บริเวณสันจมูก หลังจากที่เสริมจมูกมาแล้ว เป็นเวลานานประมาณ 2-3 ปี เป็นสัญญาณเตือนว่า มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิด โอกาสจมูกทะลุได้สูงมาก
จมูกจะดูยาวมากขึ้น หรือมีปลายจมูกงุ้มลง จากการที่ซิลิโคน เริ่มเคลื่อนตัวลงมา เป็นเพราะมีการรัดตัวของแคปซูล ที่หุ้มซิลิโคนอยู่ ซิลิโคนจึงเคลื่อนตัวต่ำลงมา ซึ่งสัญญาณนี้เป็นสาเหตหลัก ของการเกิด ปลายจมูกทะลุ
จมูกมีร่อง หรือรอยบุ๋มเกิดขึ้น สาเหตุเป็นเพราะ ซิลิโคนที่เสริมจมูก ไปยึดติดกับชั้นผิวหนังมากเกินไป จึงเห็นเป็นขอบซิลิโคน ได้อย่างชัดเจน หรืออาจจะเกิดได้จากมีผังพืดหนามาก ผิวหนังมีความเป็นตะปุ่มตะป่ำ ขรุขระ และยังเกิดได้ จากการที่เนื้อจมูกอักเสบ
การเกิดสิวหัวช้าง หมายถึงเกิดการอักเสบ ของผิวที่บริเวณนั้น ๆ ถ้าหากเกิดสิวหัวช้างที่ปลายจมูก ขั้นแรกให้รับประทานยา เพื่อรักษาอาการอักเสบนี้ก่อน แต่ถ้าหากว่าไม่ดีขึ้น อาจหมายถึงการอักเสบและติดเชื้อ ส่งผลทำให้ผิวบางลง จนสังเกตเห็นได้ถึงสีขาว ๆ ของซิลิโคน ซึ่งในอนาคตซิลิโคน จะทะลุออกมาที่ปลายจมูกได้
ถ้าหากสังเกตเห็นว่า จมูกเป็นเงาของแท่งซิลิโคน ที่ใช้เสริมจมูก หรือสังเกตเห็นได้ถึง ส่วนของขาซิลิโคนอย่างชัดเจน ถือเป็นสัญญาณอันตราย เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า ซิลิโคนใกล้ทะลุแล้ว จะต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน
ถ้าหากเห็นซิลิโคน ทะลุออกมาที่ปลายจมูกแล้ว ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน เพราะซิลิโคนทะลุออกมา ด้านนอกแล้ว ไม่ใช่แค่สัญญาณเตือน ต้องทำการแก้ไขอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าทิ้งไว้อาจจะทำให้ เนื้อจมูกเสียไปได้ ทำให้การเสริมใหม่ ทำได้ยากมากขึ้นไปอีก
สาเหตุหลักของอาการจมูกทะลุ โดยส่วนใหญ่แล้วจะมาจาก การที่ผิวปลายจมูกบาง ซึ่งผิวหนังบริเวณนี้บาง เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งเกิดได้จากการอักเสบ ของผิวที่ปลายจมูก จนทำให้ซิลิโคนทะลุออกมา แต่ก็มีสาเหตุอีกหลายอย่าง ที่ทำให้จมูกทะลุ ทั้งการเลือกใช้ขนาดซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม กับฐานจมูกเดิมของตัวเอง การใช้ซิลิโคนที่ใหญ่เกินไป การเลือกใช้ซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีความยืดหยุ่น มีผิวสัมผัสแข็งมากเกินไป ก็ทำให้จมูกทะลุได้
บางครั้งการที่จมูกทะลุ ก็เกิดได้จากการที่ แก้จมูก เพราะไม่พอใจกับทรงจมูกที่เสริมไป และต้องการแก้อย่างเร่งด่วน แผลผ่าตัดยังไม่หายดี แผลยังไม่สนิท ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ และทำให้ซิลิโคนทะลุออกมาในที่สุด และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้จมูกทะลุ ก็คือการติดเชื้อ หลังจากที่เสริมจมูกไปแล้ว อาจจะเกิดจากการดูแลตัวเอง หลังผ่าตัดที่ไม่ดี การไม่รักษาความสะอาดของแผล โดยถ้าผิวหนังติดเชื้อ จะเริ่มสังเกตได้จาก ผิวหนังบริเวณปลายจมูก หรือบริเวณแผลจะช้ำกลายเป็นสีคล้ำ
ถ้าหากคุณพบสัญญาณเตือน แค่เพียงเล็กน้อย หรือพบอาการ 1 อย่างจากทั้งหมด ควรรีบเข้าพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ทันท่วงที ถ้าหากเริ่มมีอาการที่เข้าข่ายว่าเป็นอาการอักเสบ ต้องทานยาแก้อักเสบเพื่อบรรเทาอาการบวม แต่ถ้าการอักเสบนั้นรุนแรงถึงขั้นติดเชื้อ อาจจะต้องทำการเอาซิลิโคนออก เพื่อพักจมูกให้หายสนิท เมื่อจมูกหายเป็นปกติแล้วหากต้องการเสริมจมูกใหม่อีกครั้งก็สามารถทำได้