รู้หรือไม่ ? การฉีดฟิลเลอร์ เริ่มมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950

ถ้าหากพูดถึง การฉีดฟิลเลอร์ แน่นอนว่าหลาย ๆ คนจะรู้จักว่าเป็นการใช้สารเติมเต็มเพื่อปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอย และฉีดริมฝีปาก ที่เพิ่งจะมาได้รับความนิยมเมื่อไม่กี่ปีมานี้ แต่สำหรับวงการเสรอมความงาม ฟิลเลอร์ นั้นถูกใช้มาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1950 และกว่าที่ฟิลเลอร์จะกลายมาเป็นสารเติมเต็มประเภท กรดไฮยาลูโรนิค ที่สามารถใช้ได้อย่างปลอดนั้นใช้เวลาในการพัฒนามากกว่า 40 ปีเลยทีเดียว ในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับฟิลเลอร์ชนิดแรกของโลก และเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

ฟิลเลอร์ที่ใช้เพื่อการเสริมความงามตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน

ซิลิโคนเหลว

ฟิลเลอร์ชนิดแรกของโลกที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1950 ก็คือ ซิลิโคนเหลว ในสมัยนั้นซิลิโคน้หลวถูกใช้ตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ฉีดเพื่อเสริมหน้าอก บั้นท้าย และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เพื่อปรับรูปร่างและสัดส่วนของร่างกายให้ดีขึ้น แต่การใช้ซิลิโคนเหลวอันมีข้อเสียหลายอย่าง เช่น การไหลไปยังตำแหน่งอื่น ๆ ของซิลิโคน การจับตัวเป็นก้อนหลังจากที่ฉีดไปแล้ว รวมไปถึงการอักเสบเรื้อรัง ปัจจุบันซิลิโคนเหลว ถือว่าเป็นฟิลเลอร์ชนิดที่ทำให้เกิดอันตรายกับร่างกาย และถูกห้ามใช้อย่างเด็ดขาด

คอลลาเจน

ฟิลเลอร์ที่ผลิตจากคอลลาเจน เริ่มถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1980 ฟิลเลอร์ชนิดนี้เป็นโปรตีนที่พบได้ในผิวหนัง และเนื้อเยื่อบริเวณอื่น ๆ ตามร่างกายของมนุษย์ ซึ่งฟิลเลอร์ที่เป็นคอลลาเจนนี้ถูกนำมาใช้เพื่อการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกให้เรียบเนียนขึ้น ฟิลเลอร์คอลลาเจน ถือว่ามีประสิทธิภาพมาก แต่ข้อเสียคือ มีอายุการใช้งานที่สั้นมาก แค่ประมาณ 3-4 เดือนเท่านั้น 

ต่อมามีการใช้คอลลาเจนจากสัตว์ เช่น Bovine เป็นคอลลาเจนที่ได้จากวัว และ Porcine เป็นคอลลาเจนที่ได้จากหมู ข้อควรระวังก่อนกาฉีดฟิลเลอร์คอลลาเจน คือ ต้องมีการทดสอบการแพ้โปรตีนก่อนฉีดด้วยทุกครั้ง ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาฟิลเลอร์คอลลาเจน ให้มีความบริสุทธิ์และผ่านการฆ่าเชื้อ เนื้อฟิลเลอร์จะมีสีเหลืองขุ่น ซึ่งสามารถคงตัวอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้นานถึง 12 เดือน

กรดไฮยาลูโรนิค

ฟิลเลอร์ที่ผลิตขึ้นจากกรดไฮยาลูโรนิค เริ่มถูกพัฒนาในปี ค.ศ. 1990 ซึ่งตัวกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า HA เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ จุดเด่นของ HA คือช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ทั้งยังมีประสิทธิภาพในการเติมเต็มริ้วรอยสูง ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ฟิลเลอร์ชนิดนี้นิยมนำมาใช้ปรับรูปหน้า ฉีดริมฝีปาก และมีความปลอดภัยสูง ความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้มีน้อยมาก และยังคงตัวอยู่ได้นานมากกว่าฟิลเลอร์ชนิดอื่น ๆ 

และในช่วงเมื่อไม่นานมานี้ เทคโนโลยีการผลิตฟิลเลอร์ประเภทกรดกรดไฮยาลูโรนิค ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาหลากหลายนวัตกรรม เพื่อให้เนื้อฟิลเลอร์มีอนุภาคที่ต่างกัน ทั้งอนุภาคขนาดเล็ก อนุภาคขนาดใหญ่ ความแข็งของเนื้อฟิลเลอร์ ไปจนถึงความยืดหยุ่นของเนื้อฟิลเลอร์ด้วย สามารถนำไปฉีดได้หลายจุดตามความเหมาะสม ฟิลเลอร์บางแบรนด์ยังออกแบบฟิลเลอร์ออกมาให้ฉีดได้เฉพาะจุด เช่น ฟิลเลอร์สำหรับปาก หรือฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นสกินบูสเตอร์ เป็นต้น

การแบ่งประเภทของฟิลเลอร์ในยุคปัจจุบัน

การแบ่งประเภทสารเติมเต็ม หรือฟิลเลอร์ในปัจจุบันจะแบ่งออกตามระยะเวลาที่ฟิลเลอร์สามารถคงตัวอยู่ในร่างกายของมนุษย์ ซึ่งจะมีทั้งแบบที่สามารถสลายตัวได้ตามธรรมชาติ และแบบที่ไม่สามารถสลายตัวได้ ทำการผ่าตัดออกเท่านั้น

• Temporary Filler :  ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว คือ สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ อาจจะมีระยะเวลาการคงตัวอยู่ตั้งแต่ 6 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและแบรนด์ของฟิลเลอร์ สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ในแต่ละจุดที่ต้องการฉีด ฟิลเลอร์แบบชั่วคราวนี้จะเป็นประเภท HA มีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และสามารถฉีดสลายออกได้
• Semi Permanent Filler : ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะอยู่ในร่างกายได้ตั้งแต่ 2-5 ปี เป็นสารเติมเต็มประเภท โพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyakylimide) แคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite) และ โพลีเมทิล เมทาคริเลต (Polymethyl-methacrylate) หรือ PMMA ซึ่งไม่สามารถสลายตัวได้ทั้งหมด 100% ซึ่งสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ มีความปลอดภัยน้อยกว่า ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว และยังไม่ผ่าน อย. ไทย
• Permanent Filler : ฟิลเลอร์แบบถาวร ปัจจุบันทางการแพทย์ไม่แนะนำให้ใช้ เพราะเป็นสารประเภทซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน ไม่สามารถสลายตัวได้ 100% ซึ่งสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น การตกค้างอยู่ในชั้นผิว ฟิลเลอร์ไหล ย้อย จนทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดผิดรูป เกิดพังผืดขึ้นในบริเวณที่ฉีด และไม่สามารถฉีดสลายออกได้ หากจะแก้ไขต้องทำการผ่าตัดออกเท่านั้น

การฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกใช้ตัวที่มีความปลอดภัยต่อร่างกายสูง อย่าง กรดไฮยาลูโรนิค เท่านั้น และต้องเป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก อย.ไทย ทั้งนี้ควรเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า ด้วยฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เพื่อทำให้การปรับรูปหน้า การเติมเต็มความสวยของคุณ  เป็นไปอย่างอย่างแม่นยำ ตรงจุด มีประสิทธิภาพ และเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด